ฟังก์ชัน "หน่วยความจำ" ใหม่ของแชทบอท Google Gemini AI ถือเป็นก้าวสำคัญในการพัฒนาผู้ช่วย AI ในทิศทางที่เป็นส่วนตัวและชาญฉลาดยิ่งขึ้น ฟีเจอร์นี้ช่วยให้ Gemini จดจำข้อมูลชีวิตของผู้ใช้ เนื้อหางาน และความชอบส่วนบุคคล เพื่อให้บริการที่แม่นยำและคำนึงถึงผู้อื่นมากขึ้น ปัจจุบันฟีเจอร์นี้มีให้บริการเฉพาะสมาชิก Google One AI Premium ($20 ต่อเดือน) และรองรับเฉพาะหน้าเว็บและการป้อนข้อมูลภาษาอังกฤษเท่านั้นที่ยังไม่พร้อมใช้งาน แม้ว่าจะสะดวกและรวดเร็ว แต่ก็ยังทำให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับความปลอดภัยของข้อมูลและการปกป้องความเป็นส่วนตัวอีกด้วย
ฟังก์ชัน "หน่วยความจำ" ของ Google Gemini ให้บริการส่วนบุคคลโดยการจดจำการตั้งค่าของผู้ใช้ เช่น อาหารโปรด นิสัยการทำงาน ฯลฯ เช่น การแนะนำร้านอาหารตามรสนิยมของผู้ใช้ Google มีตัวอย่างสถานการณ์ในทางปฏิบัติที่หลากหลาย เช่น การใช้ภาษาง่ายๆ การระบุภาษาในการเขียนโปรแกรม รวมถึงค่าใช้จ่ายรายวันในการวางแผนการเดินทาง เป็นต้น ผู้ใช้สามารถปิดฟังก์ชั่นหน่วยความจำได้ตลอดเวลา แต่ข้อมูลที่เก็บไว้จะต้องถูกลบด้วยตนเอง Google เน้นย้ำว่าข้อมูลหน่วยความจำนี้จะไม่ถูกใช้สำหรับการฝึกโมเดล และจะไม่แชร์กับผู้อื่น
เมื่อเร็วๆ นี้ AI chatbot Gemini ของ Google ได้เปิดตัวการอัปเดตที่สำคัญ นั่นคือฟังก์ชัน "หน่วยความจำ" ซึ่งช่วยให้ผู้ช่วย AI สามารถจดจำข้อมูลชีวิตของผู้ใช้ เนื้อหางาน และความชอบส่วนตัวได้ จึงมอบประสบการณ์การบริการที่เป็นส่วนตัวยิ่งขึ้น
ขณะนี้ฟีเจอร์ใหม่นี้มีให้เฉพาะผู้ใช้ที่สมัครสมาชิกแผน Google One AI Premium มูลค่า 20 ดอลลาร์ต่อเดือน และขณะนี้รองรับบนหน้าเว็บเท่านั้นและยังไม่ได้เปิดตัวบนแอปพลิเคชัน iOS และ Android เป็นที่น่าสังเกตว่าในปัจจุบันรองรับเฉพาะการป้อนข้อมูลภาษาอังกฤษเท่านั้น
โดยเฉพาะฟังก์ชันหน่วยความจำของ Gemini สามารถช่วยให้ผู้ใช้ตระหนักถึงสถานการณ์ในทางปฏิบัติที่หลากหลาย ตัวอย่างเช่น หลังจากที่ผู้ใช้บอก Gemini ว่าพวกเขาชอบอาหารอะไร ในครั้งต่อไปที่พวกเขาขอคำแนะนำร้านอาหาร AI ก็สามารถให้คำแนะนำที่ตรงเป้าหมายมากขึ้นตามรสนิยมของผู้ใช้ Google ยังแสดงตัวอย่างที่เป็นประโยชน์อื่นๆ ในอินเทอร์เฟซ เช่น "ใช้ภาษาที่เรียบง่ายและหลีกเลี่ยงศัพท์เฉพาะ" "ฉันรู้แค่การเขียนโปรแกรม JavaScript" และ "รวมค่าใช้จ่ายรายวันเมื่อวางแผนการเดินทาง"
Google เน้นย้ำว่าผู้ใช้สามารถปิดฟังก์ชั่นหน่วยความจำได้ตลอดเวลา แต่เนื้อหาในหน่วยความจำที่เก็บไว้จะต้องถูกลบด้วยตนเองก่อนที่จะหายไป ที่สำคัญกว่านั้น โฆษกของ Google ชี้แจงอย่างชัดเจนว่าข้อมูลหน่วยความจำนี้จะไม่ถูกใช้สำหรับการฝึกโมเดล และจะไม่แชร์กับผู้อื่น
อย่างไรก็ตาม ความปลอดภัยของฟังก์ชันหน่วยความจำประเภทนี้สมควรได้รับความกังวล เมื่อต้นปีที่ผ่านมา นักวิจัยด้านความปลอดภัยค้นพบว่าแฮกเกอร์สามารถฝังความทรงจำ "ปลอม" ใน ChatGPT เพื่อขโมยข้อมูลผู้ใช้ต่อไป การค้นพบนี้เตือนเราว่าฟังก์ชันหน่วยความจำของระบบ AI จำเป็นต้องมีมาตรการป้องกันความปลอดภัยที่เข้มงวดยิ่งขึ้น
การเปิดตัวฟีเจอร์นี้สะท้อนให้เห็นถึงแนวโน้มของผู้ช่วย AI ที่พัฒนาไปในทิศทางที่ชาญฉลาดและเป็นส่วนตัวมากขึ้น แต่ยังกระตุ้นให้เกิดความคิดเกี่ยวกับการปกป้องความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้และความปลอดภัยของข้อมูล การดูแลความปลอดภัยของข้อมูลผู้ใช้พร้อมทั้งอำนวยความสะดวกจะเป็นประเด็นสำคัญที่ผู้ให้บริการ AI ต้องให้ความสนใจอย่างต่อเนื่อง
แม้ว่าฟังก์ชัน "หน่วยความจำ" ของ Gemini จะให้ความสะดวกสบาย แต่ก็ยังเน้นย้ำถึงความสำคัญของการปกป้องความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยในการพัฒนาเทคโนโลยี AI ในอนาคต การสร้างสมดุลระหว่างบริการส่วนบุคคลและความปลอดภัยของข้อมูลจะกลายเป็นความท้าทายหลักในด้าน AI ซึ่งต้องมีการสำรวจและปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง