Apple กำลังขยายระบบนิเวศบ้านอัจฉริยะอย่างแข็งขัน และมีข่าวลือเมื่อเร็ว ๆ นี้ว่าจะเปิดตัวกริ่งประตูอัจฉริยะที่มาพร้อมกับเทคโนโลยี Face ID เพื่อปรับปรุงประสบการณ์การใช้งานที่บ้านของผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น ออดอัจฉริยะนี้คาดว่าจะปลดล็อคโดยอัตโนมัติผ่านการจดจำใบหน้า และเข้ากันได้กับ Apple HomeKit และล็อคประตูของบุคคลที่สามบางรุ่น ความเคลื่อนไหวดังกล่าวมีจุดมุ่งหมายเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของ Apple ในด้านสมาร์ทโฮม และแข่งขันกับผลิตภัณฑ์ต่างๆ เช่น Ring ของ Amazon
เมื่อเร็วๆ นี้ สื่อหลายแห่งรายงานว่า Apple กำลังทำงานเพื่อขยายระบบนิเวศบ้านอัจฉริยะและกระชับความสัมพันธ์กับบ้านผู้บริโภคให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้นผ่านการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ เช่น ศูนย์บ้านอัจฉริยะแบบติดผนัง กลยุทธ์ของ Apple อาจรวมถึงกริ่งประตูอัจฉริยะที่ใช้เทคโนโลยี FaceID
กริ่งประตูอัจฉริยะนี้คาดว่าจะใช้เทคโนโลยี FaceID เพื่อสแกนใบหน้าเมื่อมีบุคคลเข้ามาใกล้ และเชื่อมต่อกับล็อคประตูไร้สายในบ้านเพื่อรับฟังก์ชั่นปลดล็อคอัตโนมัติ ทำให้ผู้ใช้ได้รับประสบการณ์การเข้าและออกที่สะดวกยิ่งขึ้น มีรายงานว่าผลิตภัณฑ์อาจเข้ากันได้กับล็อคประตูของบุคคลที่สามที่รองรับ Apple HomeKit หรืออาจเปิดตัวโซลูชันแบบรวมผ่านความร่วมมือกับผู้ผลิตล็อคเฉพาะ
อย่างไรก็ตาม กริ่งประตูยังอยู่ในช่วงเริ่มต้นของการพัฒนา และจะไม่สามารถใช้งานได้จนถึงสิ้นปี 2025 เป็นอย่างเร็วที่สุด นอกจากนี้ คนในอุตสาหกรรมยังชี้ให้เห็นว่าแม้ว่าออดอัจฉริยะที่มี FaceID นี้คาดว่าจะแข่งขันกับผลิตภัณฑ์ที่คล้ายกันเช่น Amazon Ring แต่ก็อาจทำให้เกิดข้อขัดแย้งด้านความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัย เมื่อระบบถูกหาประโยชน์อย่างมุ่งร้าย อาจมีความเสี่ยงที่จะถูกลักขโมย
คงต้องรอดูกันว่า Apple จะสามารถสร้างความก้าวหน้าอีกครั้งในตลาดสมาร์ทโฮมด้วยผลิตภัณฑ์ที่เป็นนวัตกรรมนี้ได้หรือไม่
อย่างไรก็ตาม ไม่สามารถมองข้ามปัญหาความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยของกริ่งประตูอัจฉริยะ Face ID ได้ Apple จำเป็นต้องพิจารณาปัจจัยเหล่านี้อย่างเต็มที่ในการออกแบบผลิตภัณฑ์เพื่อให้มั่นใจในความปลอดภัยของข้อมูลผู้ใช้และหลีกเลี่ยงความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น สุดท้ายจะสำเร็จหรือไม่นั้นยังต้องใช้เวลาในการทดสอบ