ฟังก์ชัน is_int() ใช้ในการตรวจสอบว่าตัวแปรเป็นจำนวนเต็มหรือไม่
หมายเหตุ: หากคุณต้องการทดสอบว่าตัวแปรเป็นตัวเลขหรือสตริงตัวเลข (เช่น อินพุตแบบฟอร์ม ซึ่งโดยปกติจะเป็นสตริง) คุณต้องใช้ is_numeric()
ฟังก์ชันนามแฝง () : is_integer(), is_long()
ข้อกำหนดเวอร์ชัน PHP: PHP 4, PHP 5, PHP 7
ไวยากรณ์
บูล is_int (ผสม $var)
คำอธิบายพารามิเตอร์:
$var: ตัวแปรที่จะทดสอบ
ส่งกลับค่า
TRUE หากตัวแปรที่ระบุเป็นจำนวนเต็ม FALSE หากเป็นอย่างอื่น
ตัวอย่าง
ตัวอย่าง
<?php $ var_name1 = 678 ; $ var_name2 = " a678 " ; $ var_name4 = 999 ; $ var_name5 = 698 .99 ; .66 ; ( is_int ( $var_name1 ) ) - เสียงสะท้อน " $ var_name1 เป็น จำนวนเต็ม " PHP_EOL ; อื่น - เสียงสะท้อน " $ var_name1 ไม่ใช่ จำนวนเต็ม " PHP_EOL ; ถ้า ( is_int ( $var_name2 ) ) - เสียงสะท้อน " $ var_name2 เป็น จำนวนเต็ม " } อื่น - เสียงสะท้อน " $ var_name2 ไม่ใช่ จำนวนเต็ม " } $result = is_int ( $ var_name3 ) ; " [ $ var_name3 เป็น จำนวนเต็ม หรือ ไม่ ] " . var_dump ( $ result ) ; " [ $ var_name4 เป็น จำนวนเต็ม หรือ ไม่ ] " . var_dump ( $ result ) ; " [ $ var_name5 เป็น จำนวนเต็ม หรือ ไม่ ] " . var_dump ( $ result ) ; " [ $ var_name6 เป็น จำนวนเต็ม หรือ ไม่ ] " . var_dump ( $ result ) ; " [ $var_name7 เป็น จำนวนเต็มหรือ
ไม่ ]
" . var_dump ( $result ) ; ผลลัพธ์คือ:
678 เป็นจำนวนเต็ม a678 ไม่ใช่จำนวนเต็มบูล(เท็จ)[ 678 เป็นจำนวนเต็มหรือไม่ ]บูล(จริง)[ 999 เป็นจำนวนเต็มหรือไม่ ]บูล(เท็จ)[ 698.99 เป็นจำนวนเต็มหรือไม่ จำนวนเต็ม? ] bool(false)[125689.66 เป็นจำนวนเต็มหรือไม่]