ตัวอย่างในบทความนี้สรุปการใช้เมธอด System.getProperty() ของ Java เพื่อรับข้อมูล แบ่งปันกับทุกคนสำหรับการอ้างอิงของคุณ รายละเอียดมีดังนี้:
คัดลอกโค้ดดังนี้: System.out.println("java version number:" + System.getProperty("java.version")); // หมายเลขเวอร์ชัน java
System.out.println("ชื่อผู้ให้บริการ Java:" + System.getProperty("java.vendor")); // ชื่อผู้ให้บริการ Java
System.out.println("เว็บไซต์ผู้ให้บริการ Java:" + System.getProperty("java.vendor.url")); // เว็บไซต์ผู้ให้บริการ Java
System.out.println("jre directory:" + System.getProperty("java.home")); // Java โอ้ มันควรจะเป็นไดเร็กทอรี jre
System.out.println("หมายเลขเวอร์ชันข้อกำหนดเครื่องเสมือน Java:" + System.getProperty("java.vm.speciation.version")); // หมายเลขเวอร์ชันข้อกำหนดเครื่องเสมือน Java
System.out.println("ผู้ให้บริการข้อกำหนดเครื่องเสมือน Java:" + System.getProperty("java.vm.specialation.vendor")); // ผู้ให้บริการข้อกำหนดเครื่องเสมือน Java
System.out.println("ชื่อข้อกำหนดเครื่องเสมือน Java:" + System.getProperty("java.vm.specialation.name")); // ชื่อข้อกำหนดเครื่องเสมือน Java
System.out.println("หมายเลขเวอร์ชันเครื่องเสมือน Java:" + System.getProperty("java.vm.version")); // หมายเลขเวอร์ชันเครื่องเสมือน Java
System.out.println("ผู้ให้บริการเครื่องเสมือน Java:" + System.getProperty("java.vm.vendor")); // ผู้ให้บริการเครื่องเสมือน Java
System.out.println("ชื่อเครื่องเสมือน Java:" + System.getProperty("java.vm.name")); // ชื่อเครื่องเสมือน Java
System.out.println("หมายเลขเวอร์ชันข้อกำหนด Java:" + System.getProperty("java.speciation.version")); // หมายเลขเวอร์ชันข้อกำหนด Java
System.out.println("ผู้ให้บริการข้อกำหนด Java:" + System.getProperty("java.speciation.vendor")); // ผู้ให้บริการข้อกำหนด Java
System.out.println("ชื่อข้อกำหนด Java:" + System.getProperty("java.speciation.name")); // ชื่อข้อกำหนด Java
System.out.println("หมายเลขเวอร์ชันคลาส Java:" + System.getProperty("java.class.version")); // หมายเลขเวอร์ชันคลาส Java
System.out.println("เส้นทางคลาส Java:" + System.getProperty("java.class.path")); // เส้นทางคลาส Java
System.out.println("เส้นทาง Java lib:" + System.getProperty("java.library.path")); // เส้นทาง Java lib
System.out.println("เส้นทางชั่วคราวของอินพุตและเอาต์พุต Java:" + System.getProperty("java.io.tmpdir")); // อินพุตและเอาต์พุต Java เส้นทางชั่วคราว
System.out.println("คอมไพเลอร์ Java:" + System.getProperty("java.compiler")); // คอมไพเลอร์ Java
System.out.println("เส้นทางการดำเนินการ Java:" + System.getProperty("java.ext.dirs")); // เส้นทางการดำเนินการ Java
System.out.println("ชื่อระบบปฏิบัติการ:" + System.getProperty("os.name")); // ชื่อระบบปฏิบัติการ
System.out.println("สถาปัตยกรรมของระบบปฏิบัติการ:" + System.getProperty("os.arch")); // สถาปัตยกรรมของระบบปฏิบัติการ
System.out.println("หมายเลขเวอร์ชันระบบปฏิบัติการ:" + System.getProperty("os.version")); // หมายเลขเวอร์ชันระบบปฏิบัติการ
System.out.println("ตัวแยกไฟล์:" + System.getProperty("file.separator")); // ตัวแยกไฟล์
System.out.println("ตัวคั่นเส้นทาง:" + System.getProperty("path.separator")); // ตัวคั่นเส้นทาง
System.out.println("ตัวคั่นบรรทัด:" + System.getProperty("line.separator")); // ตัวคั่นบรรทัด
System.out.println("ชื่อผู้ใช้ระบบปฏิบัติการ:" + System.getProperty("user.name")); // ชื่อผู้ใช้
System.out.println("โฮมไดเร็กทอรีของผู้ใช้ระบบปฏิบัติการ:" + System.getProperty("user.home")); // โฮมไดเร็กทอรีของผู้ใช้
System.out.println("ไดเร็กทอรีซึ่งเป็นที่ตั้งของโปรแกรมปัจจุบัน:" + System.getProperty("user.dir")); // ไดเร็กทอรีซึ่งเป็นที่ตั้งของโปรแกรมปัจจุบัน
ฉันหวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์กับการเขียนโปรแกรม Java ของทุกคน