Spotify ร่วมมือกับ Google Gemini เพื่อเปิดตัวฟีเจอร์การเล่นเพลงใหม่ที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถควบคุม Spotify ผ่านคำสั่งภาษาธรรมชาติ เพื่อให้สามารถค้นหาและเล่นเพลงได้อย่างสะดวก คุณลักษณะนี้ปรากฏครั้งแรกในโค้ดแอปพลิเคชันของ Google และขณะนี้ได้ค่อยๆ เปิดตัวไปยังอุปกรณ์ Android ที่รองรับ ทำให้ผู้ใช้ได้รับประสบการณ์ทางดนตรีที่ชาญฉลาดยิ่งขึ้น ขณะนี้ฟีเจอร์นี้รองรับการค้นหาด้วยชื่อเพลง ศิลปิน ชื่ออัลบั้ม หรือชื่อเพลย์ลิสต์ แต่ขณะนี้ยังไม่รองรับการสร้างเพลย์ลิสต์หรือสถานีวิทยุบน Spotify
ผู้ใช้ Spotify สามารถขอเล่นเพลงโดยใช้ภาษาธรรมชาติผ่านส่วนขยาย Gemini ซึ่งเป็นผู้ช่วย AI ดั้งเดิมของ Google จากข้อมูลของ 9to5Google คุณลักษณะนี้ปรากฏตัวครั้งแรกในโค้ดแอป Google ในเดือนมิถุนายน และตอนนี้กำลังทยอยเปิดตัวไปยังอุปกรณ์ Android ที่รองรับ
เมื่อใช้ส่วนขยายนี้ ผู้ใช้สามารถค้นหาและเล่นเพลงตามชื่อเพลง ศิลปิน ชื่ออัลบั้ม หรือชื่อเพลย์ลิสต์ แต่ในปัจจุบัน Gemini ไม่รองรับการสร้างเพลย์ลิสต์หรือสถานีบน Spotify ประเด็นหนึ่งที่ควรทราบก็คือ หากผู้ใช้เชื่อมโยงกับบริการเพลงหลายอย่าง (เช่น YouTube Music) ผู้ใช้จะต้องระบุอย่างชัดเจนว่าต้องการให้ Gemini ใช้บริการใดในระหว่างการร้องขอครั้งแรก จากนั้น Gemini จะใช้ค่าเริ่มต้นเป็นบริการที่เลือกล่าสุด .
Spotify กลายเป็นแอปที่สองที่ไม่ใช่ของ Google ที่ได้รับการขยายการสนับสนุน Gemini หลังจากเปิดตัวการสนับสนุน WhatsApp ในเดือนตุลาคม
ตามหน้าสนับสนุนส่วนขยายของ Google ผู้ใช้จำเป็นต้องเชื่อมโยงบัญชี Spotify และ Google และเปิดใช้งานกิจกรรมแอพ Gemini เพื่อใช้คุณสมบัตินี้ การตั้งค่านี้จะอนุญาตให้บันทึกการสืบค้น AI ได้นานถึง 72 ชั่วโมง อย่างไรก็ตาม ส่วนขยาย Spotify ยังไม่สามารถใช้งานได้ใน Google Messages, เว็บแอป Gemini หรือแอป Gemini บน iOS และใช้งานได้เฉพาะเมื่อตั้งค่าภาษา Gemini เป็นภาษาอังกฤษเท่านั้น
การบูรณาการระหว่าง Spotify และ Gemini ถือเป็นหลักชัยใหม่ในการเล่นเพลงที่ควบคุมด้วยเสียง ทำให้ผู้ใช้สามารถฟังเพลงได้อย่างสะดวกและเป็นธรรมชาติยิ่งขึ้น ในอนาคต เราหวังว่าจะปรับปรุงฟีเจอร์นี้เพิ่มเติมเพื่อรองรับฟังก์ชันและแพลตฟอร์มเพิ่มเติม