การวิจัยที่ก้าวล้ำใช้ generative AI โดยเฉพาะโมเดลภาษาขนาดใหญ่ (LLM) เพื่อสร้างสถาปัตยกรรมที่สามารถจำลองพฤติกรรมของมนุษย์ได้อย่างแม่นยำในสถานการณ์ต่างๆ งานวิจัยนี้เป็นเครื่องมือที่ทรงพลังอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อนสำหรับการวิจัยทางสังคมศาสตร์ ซึ่งหมายความว่าสามารถเข้าใจและคาดการณ์พฤติกรรมของมนุษย์ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ดังนั้นจึงกำหนดนโยบายทางสังคมและกลยุทธ์ทางธุรกิจได้ดียิ่งขึ้น ทีมวิจัยรวบรวมข้อมูลจำนวนมากผ่านการสัมภาษณ์เชิงลึก และใช้ข้อมูลนี้ในการฝึกแบบจำลองและสร้าง "โคลน" เสมือนจริงหลายพันรายการ ประสิทธิภาพของ "โคลน" เหล่านี้ในการทดสอบต่างๆ มีความสอดคล้องอย่างมากกับประสิทธิภาพของผู้เข้าร่วมจริง
การศึกษาใหม่แสดงให้เห็นว่าการใช้โมเดล AI แบบกำเนิด โดยเฉพาะโมเดลภาษาขนาดใหญ่ (LLM) สามารถสร้างสถาปัตยกรรมที่สามารถจำลองพฤติกรรมของมนุษย์ในสถานการณ์ต่างๆ ได้อย่างแม่นยำ การค้นพบนี้ถือเป็นเครื่องมือใหม่ที่มีประสิทธิภาพสำหรับการวิจัยทางสังคมศาสตร์
นักวิจัยได้คัดเลือกผู้เข้าร่วมมากกว่า 1,000 คนจากหลากหลายภูมิหลังในสหรัฐอเมริกา และทำการสัมภาษณ์เชิงลึกเป็นเวลา 2 ชั่วโมงกับพวกเขาเพื่อรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับประสบการณ์ชีวิต ความคิดเห็น และค่านิยมของพวกเขา จากนั้นนักวิจัยจึงใช้สำเนาบทสัมภาษณ์และแบบจำลองภาษาขนาดใหญ่เพื่อสร้าง "สถาปัตยกรรม generative agent"
สถาปัตยกรรมนี้สามารถสร้าง "โคลน" เสมือนนับพันตามการสัมภาษณ์ของผู้เข้าร่วม โดยแต่ละอันมีบุคลิกภาพและรูปแบบพฤติกรรมที่เป็นเอกลักษณ์ นักวิจัยประเมินประสิทธิภาพพฤติกรรมของโคลนผ่านการทดสอบทางสังคมศาสตร์มาตรฐาน เช่น แบบทดสอบบุคลิกภาพ Big Five และเกมเศรษฐศาสตร์พฤติกรรม
น่าประหลาดใจที่โคลนดำเนินการในการทดสอบที่มีความสอดคล้องสูงกับผู้เข้าร่วมจริง ไม่เพียงแต่สามารถทำนายคำตอบของตนในแบบสอบถามได้อย่างแม่นยำเท่านั้น แต่ยังคาดการณ์การตอบสนองเชิงพฤติกรรมในการทดลองได้ด้วย เช่น ในการทดลองที่พลังงานส่งผลต่อความไว้วางใจ โดยที่ "โคลนนิ่ง" ดำเนินการเหมือนผู้เข้าร่วมจริง และความน่าเชื่อถือของกลุ่มพลังงานสูงลดลงอย่างมากเพียงใด มากกว่ากลุ่มพลังงานต่ำ
งานวิจัยนี้แสดงให้เห็นว่าโมเดล AI เชิงกำเนิดสามารถใช้เพื่อสร้าง "มนุษย์เสมือน" ที่สมจริงอย่างมาก และทำนายพฤติกรรมของมนุษย์จริงได้ นี่เป็นแนวทางใหม่ทั้งหมดในการวิจัยทางสังคมศาสตร์ ตัวอย่างเช่น การใช้ "มนุษย์เสมือนจริง" เหล่านี้เพื่อทดสอบผลกระทบของนโยบายด้านสาธารณสุขใหม่ๆ หรือกลยุทธ์ทางการตลาด โดยไม่จำเป็นต้องทำการทดลองขนาดใหญ่กับคนจริงๆ
นักวิจัยยังพบว่าการใช้ข้อมูลประชากรเพื่อสร้าง "มนุษย์เสมือน" เพียงอย่างเดียวนั้นไม่เพียงพอ เมื่อรวมกับการสัมภาษณ์เชิงลึกเท่านั้นที่จะสามารถจำลองพฤติกรรมของแต่ละบุคคลได้แม่นยำยิ่งขึ้น สิ่งนี้แสดงให้เห็นว่าแต่ละคนมีประสบการณ์และมุมมองที่แตกต่างกัน และข้อมูลนี้มีความสำคัญอย่างยิ่งในการทำความเข้าใจและคาดการณ์พฤติกรรมของพวกเขา
เพื่อปกป้องความเป็นส่วนตัวของผู้เข้าร่วม นักวิจัยวางแผนที่จะสร้าง "ห้องสมุดตัวแทน" และจัดให้มีการเข้าถึงในสองวิธี: การเข้าถึงข้อมูลรวมแบบเปิดสำหรับงานคงที่ และการจำกัดการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลสำหรับงานที่เปิดอยู่ ช่วยให้นักวิจัยใช้ "มนุษย์เสมือน" เหล่านี้ได้ง่ายขึ้น พร้อมทั้งลดความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับเนื้อหาของการสัมภาษณ์ด้วย
ผลการวิจัยครั้งนี้เปิดประตูใหม่ให้กับการวิจัยทางสังคมศาสตร์อย่างไม่ต้องสงสัย ให้เรารอดูว่าจะมีผลกระทบในวงกว้างอย่างไรบ้างในอนาคต
ที่อยู่กระดาษ: https://arxiv.org/pdf/2411.10109
งานวิจัยนี้ไม่เพียงแต่มอบเครื่องมือใหม่สำหรับการวิจัยทางสังคมศาสตร์เท่านั้น แต่ยังนำความเป็นไปได้ใหม่ๆ มาสู่สาขาอื่นๆ เช่น การกำหนดนโยบายสาธารณะ การตลาด และการทำนายพฤติกรรม ในอนาคตด้วยการพัฒนาและปรับปรุงเทคโนโลยีอย่างต่อเนื่อง ผลการวิจัยนี้จะมีผลกระทบอย่างลึกซึ้งมากขึ้นอย่างแน่นอน