บรรณาธิการของ Downcodes ได้เรียนรู้ว่าขณะนี้ผู้ใช้ Spotify สามารถใช้ส่วนขยาย Gemini ผู้ช่วย AI เจนเนอเรชั่นของ Google เพื่อควบคุมการเล่นเพลงได้อย่างสะดวกโดยใช้ภาษาที่เป็นธรรมชาติ คุณลักษณะนี้ถูกค้นพบครั้งแรกในโค้ดแอปพลิเคชันของ Google ในเดือนมิถุนายน และขณะนี้กำลังทยอยเปิดตัวไปยังอุปกรณ์ Android ที่รองรับ ทำให้ผู้ใช้ได้รับประสบการณ์ทางดนตรีที่ชาญฉลาดยิ่งขึ้น การเคลื่อนไหวครั้งนี้ถือเป็นก้าวสำคัญสำหรับ Google Gemini ในการขยายการรองรับแอปพลิเคชันบุคคลที่สาม และยังช่วยให้ผู้ใช้ Spotify มีวิธีใหม่ในการโต้ตอบกับเพลงอีกด้วย
ผู้ใช้ Spotify สามารถขอเล่นเพลงโดยใช้ภาษาธรรมชาติผ่านส่วนขยาย Gemini ซึ่งเป็นผู้ช่วย AI ดั้งเดิมของ Google จากข้อมูลของ 9to5Google คุณลักษณะนี้ปรากฏตัวครั้งแรกในโค้ดแอป Google ในเดือนมิถุนายน และตอนนี้กำลังทยอยเปิดตัวไปยังอุปกรณ์ Android ที่รองรับ
เมื่อใช้ส่วนขยายนี้ ผู้ใช้สามารถค้นหาและเล่นเพลงตามชื่อเพลง ศิลปิน ชื่ออัลบั้ม หรือชื่อเพลย์ลิสต์ แต่ในปัจจุบัน Gemini ไม่รองรับการสร้างเพลย์ลิสต์หรือสถานีบน Spotify ประเด็นหนึ่งที่ควรทราบก็คือ หากผู้ใช้เชื่อมโยงกับบริการเพลงหลายอย่าง (เช่น YouTube Music) ผู้ใช้จะต้องระบุอย่างชัดเจนว่าต้องการให้ Gemini ใช้บริการใดในระหว่างการร้องขอครั้งแรก จากนั้น Gemini จะใช้ค่าเริ่มต้นเป็นบริการที่เลือกล่าสุด .
Spotify กลายเป็นแอปที่สองที่ไม่ใช่ของ Google ที่ได้รับการขยายการสนับสนุน Gemini หลังจากเปิดตัวการสนับสนุน WhatsApp ในเดือนตุลาคม
ตามหน้าสนับสนุนส่วนขยายของ Google ผู้ใช้จำเป็นต้องเชื่อมโยงบัญชี Spotify และ Google และเปิดใช้งานกิจกรรมแอพ Gemini เพื่อใช้คุณสมบัตินี้ การตั้งค่านี้จะอนุญาตให้บันทึกการสืบค้น AI ได้นานถึง 72 ชั่วโมง อย่างไรก็ตาม ส่วนขยาย Spotify ยังไม่สามารถใช้งานได้ใน Google Messages, เว็บแอป Gemini หรือแอป Gemini บน iOS และใช้งานได้เฉพาะเมื่อตั้งค่าภาษา Gemini เป็นภาษาอังกฤษเท่านั้น
โดยรวมแล้ว การรวม Gemini กับ Spotify มอบประสบการณ์การเล่นเพลงที่สะดวกสบายยิ่งขึ้นให้กับผู้ใช้ แต่ก็ยังมีข้อจำกัดบางประการ เช่น การไม่รองรับการสร้างเพลย์ลิสต์และสถานีวิทยุ รวมถึงปัญหาความเข้ากันได้ของแพลตฟอร์มและภาษา ในอนาคต เราหวังเป็นอย่างยิ่งว่า Gemini จะปรับปรุงฟังก์ชันต่างๆ และเพิ่มประสบการณ์ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น