การอัปเดตล่าสุดของ OpenAI เพิ่มฟังก์ชันหน่วยความจำอันทรงพลังให้กับ ChatGPT ผู้ช่วย AI ช่วยให้สามารถเรียกคืนเนื้อหาการสื่อสารก่อนหน้าของผู้ใช้ในการสนทนา ซึ่งช่วยปรับปรุงระดับความเป็นส่วนตัวของประสบการณ์ผู้ใช้อย่างมีนัยสำคัญ คุณลักษณะนี้ไม่เพียงแต่บันทึกการสนทนาเท่านั้น แต่ยังช่วยให้ผู้ใช้สามารถควบคุมข้อมูลหน่วยความจำได้อย่างสมบูรณ์ ผู้ใช้สามารถลบ เก็บถาวร หรือล้างข้อมูลเฉพาะได้อย่างอิสระ เพื่อรับรองความเป็นส่วนตัวของการสนทนาและความปลอดภัยของข้อมูล การอัปเดตนี้ต่อยอดจากฟีเจอร์หน่วยความจำแรกของ OpenAI ที่เปิดตัวในเดือนกุมภาพันธ์ ซึ่งประสบความสำเร็จอย่างก้าวกระโดดจากหน่วยความจำการสนทนาเดี่ยวไปสู่หน่วยความจำการสนทนาข้าม ถือเป็นก้าวสำคัญในการทำให้ผู้ช่วย AI กลายเป็นผู้ช่วยส่วนตัวที่แท้จริง
OpenAI ได้ประกาศเปิดตัวฟีเจอร์หน่วยความจำใหม่ที่ช่วยให้ ChatGPT ผู้ช่วย AI สามารถเรียกคืนการสื่อสารในอดีตเมื่อผู้ใช้เปิดการสนทนาใหม่ การอัปเดตนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อปรับปรุงประสบการณ์ผู้ใช้และเปิดใช้งาน ChatGPT เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ใช้ในแบบเฉพาะตัวมากขึ้น
ฟังก์ชั่นหน่วยความจำใหม่เพิ่มความสามารถหน่วยความจำการสนทนาให้กับ ChatGPT ผู้ใช้สามารถควบคุมข้อมูลที่เก็บไว้ได้อย่างเต็มที่ผ่านแผงการตั้งค่า รวมถึงการลบความทรงจำเฉพาะ การล้างบันทึกการสนทนาในอดีต หรือการเก็บถาวรบันทึกการสนทนาบางอย่างเพื่อให้เป็นส่วนตัว
ผู้ใช้สามารถควบคุมการทำงานของหน่วยความจำของ ChatGPT ได้อย่างสมบูรณ์ พวกเขาสามารถลบความทรงจำที่เฉพาะเจาะจงผ่านการตั้งค่า หรือลบการสนทนาที่ผ่านมาออกจากประวัติการสนทนาของพวกเขา นอกจากนี้ ผู้ใช้สามารถเลือกเก็บการสนทนาบางรายการเพื่อป้องกันไม่ให้ ChatGPT จดจำการสนทนาเหล่านั้นได้ โปรดทราบว่าหากผู้ใช้ปิดฟังก์ชันหน่วยความจำ การดำเนินการนี้จะไม่ล้างความทรงจำที่มีอยู่ และการลบการสนทนาในอดีตจะไม่ส่งผลต่อความทรงจำที่ Assistant สร้างขึ้นจากการสนทนาเหล่านั้น
สำหรับผู้ใช้ที่ต้องการเก็บการสนทนาโดยไม่มีหน่วยความจำ ChatGPT เสนอตัวเลือกในการปิดหน่วยความจำหรือใช้คุณสมบัติการแชทเฉพาะกิจเพื่อให้การสนทนาเป็นแบบส่วนตัว ชุดคุณลักษณะนี้ได้รับการออกแบบมาเพื่อปรับปรุงประสบการณ์ผู้ใช้และทำให้ทุกการโต้ตอบกับ ChatGPT ราบรื่นและเป็นส่วนตัวมากขึ้น
ก่อนการอัปเดตนี้ OpenAI ได้เปิดตัวฟีเจอร์หน่วยความจำครั้งแรกในเดือนกุมภาพันธ์ 2024 ซึ่งได้รับการออกแบบมาเพื่อช่วยให้ ChatGPT เข้าใจการตั้งค่าของผู้ใช้ เช่น สไตล์การเขียนหรือภาษาการเขียนโปรแกรมที่ชื่นชอบ ผู้ใช้เพียงบอก ChatGPT ถึงข้อมูลที่พวกเขาต้องการให้จดจำในการแชท ฟังก์ชันหน่วยความจำการสนทนาข้ามใหม่ขยายบนรากฐานนี้ ทำให้ AI สามารถดึงและใช้ข้อมูลในอดีตในการสนทนาต่างๆ เพื่อปรับปรุงความเกี่ยวข้องและความเป็นส่วนตัวของการสนทนา
เมื่อเปรียบเทียบกับการอัปเดต OpenAI แล้ว Google ยังก้าวไปอีกขั้นในด้านฟีเจอร์หน่วยความจำอีกด้วย Google เพิ่มฟีเจอร์หน่วยความจำที่คล้ายกันให้กับ chatbot Gemini ในเดือนพฤศจิกายน 2023 ฟีเจอร์นี้ซึ่งปัจจุบันมีให้บริการเฉพาะผู้ใช้ Google One AI Premium แบบชำระเงินเท่านั้น ช่วยให้ผู้ใช้บอก AI ว่าพวกเขาชอบอะไร เช่น อาหารประเภทโปรด เพื่อให้คำแนะนำที่แม่นยำยิ่งขึ้นในการสนทนาครั้งต่อๆ ไป ผู้ใช้ยังสามารถปิดฟีเจอร์นี้ได้ตลอดเวลา และ Google เน้นย้ำว่าจะไม่ใช้ข้อมูลส่วนบุคคลที่เก็บไว้เพื่อฝึกโมเดล AI
การเปิดตัวฟีเจอร์หน่วยความจำเหล่านี้สะท้อนถึงเป้าหมายที่กว้างขึ้นของอุตสาหกรรม AI ในการเปลี่ยนแชทบอทให้เป็นผู้ช่วยส่วนตัวอย่างแท้จริง ทั้ง OpenAI และ Google หวังว่าผ่านระบบเหล่านี้ AI สามารถเรียนรู้และจดจำการตั้งค่าของผู้ใช้ได้อย่างต่อเนื่องในระหว่างการสนทนา จึงปรับการตอบสนองโดยอัตโนมัติ และช่วยให้ผู้ใช้ไม่ต้องยุ่งยากในการให้ข้อมูลพื้นฐานซ้ำ ๆ ในแต่ละการสนทนา
ไฮไลท์:
OpenAI เปิดตัวฟังก์ชันหน่วยความจำใหม่ ChatGPT ซึ่งสามารถจำการสื่อสารในอดีตของผู้ใช้ระหว่างการสนทนาได้
ผู้ใช้สามารถจัดการการตั้งค่าหน่วยความจำและลบหรือเก็บข้อมูลเฉพาะได้ตลอดเวลา
Google ยังได้เปิดตัวฟีเจอร์ที่คล้ายกันโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อปรับปรุงบริการส่วนบุคคลของผู้ช่วย AI
โดยรวมแล้ว ฟังก์ชันหน่วยความจำใหม่ของ ChatGPT ถือเป็นก้าวสำคัญในการพัฒนาผู้ช่วย AI การแข่งขันระหว่าง OpenAI และ Google ยังขับเคลื่อนความก้าวหน้าอย่างต่อเนื่องของอุตสาหกรรม AI ทำให้ผู้ใช้ได้รับประสบการณ์ที่ชาญฉลาดและเป็นส่วนตัวมากขึ้น ในอนาคต เราหวังว่าจะได้เห็นฟังก์ชันที่คล้ายกันมากขึ้นเพื่อให้ AI สามารถให้บริการมนุษย์ได้ดียิ่งขึ้น