เมื่อเร็ว ๆ นี้ ผู้ถือหุ้น Tesla ได้ยื่นฟ้อง CEO Musk และคณะกรรมการบริหาร โดยกล่าวหาว่าพวกเขาถ่ายโอนทรัพยากรและความสามารถของบริษัทไปยังบริษัท AI ของ Musk อย่าง xAI อย่างไม่เหมาะสม และละเมิดหน้าที่ที่ได้รับความไว้วางใจให้กับ Tesla คดีดังกล่าวระบุว่า Musk ใช้ทรัพยากรของ Tesla เพื่อพัฒนา xAI และอ้างว่าในขณะที่ xAI ระดมทุนได้หลายพันล้านดอลลาร์ xAI ก็สามารถเข้าถึงข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับปัญญาประดิษฐ์ของ Tesla ได้ ความเคลื่อนไหวดังกล่าวทำให้เกิดความกังวลในหมู่ผู้ถือหุ้นว่าผลประโยชน์ของบริษัทได้รับความเสียหาย และคณะกรรมการไม่สามารถป้องกันพฤติกรรมดังกล่าวได้อย่างมีประสิทธิภาพ เหตุการณ์ดังกล่าวยังสะท้อนให้เห็นถึงความกังวลที่เพิ่มขึ้นเกี่ยวกับการกำกับดูแลกิจการและปัญหาความขัดแย้งทางผลประโยชน์ ในขณะที่บริษัทเทคโนโลยีมีการพัฒนาอย่างรวดเร็ว
เป็นเวลาหลายปีแล้วที่ Musk พยายามวางตำแหน่ง Tesla ให้เป็นโรงไฟฟ้าด้านหุ่นยนต์และปัญญาประดิษฐ์ ไม่ใช่แค่บริษัทรถยนต์ คำกล่าวอ้างดังกล่าวทำให้ราคาหุ้นของ Tesla สูงขึ้น ทำให้บริษัทมีมูลค่ามากกว่าผู้ผลิตรถยนต์ชั้นนำทั้งหมดรวมกัน ในเวลาเดียวกัน Musk "เปลี่ยนความสามารถและทรัพยากรที่หายากจาก Tesla มาเป็น xAI และส่งเสริมให้ xAI เข้าถึงข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับ AI ของ Tesla แม้ว่า xAI จะระดมเงินได้หลายพันล้านดอลลาร์ก็ตาม" คำฟ้องระบุอยู่ในเอกสาร
ผู้ถือหุ้นของ Tesla ยังอ้างถึงรายงานของ CNBC ล่าสุดที่กล่าวหา Musk ว่าสั่งโอนชิปปัญญาประดิษฐ์ที่ผลิตโดย Nvidia หลายพันตัว ซึ่งควรจะส่งมอบให้กับ Tesla ไปยังบริษัทโซเชียลมีเดียดังกล่าว หลังจากที่บทความของ CNBC ได้รับการตีพิมพ์ Musk ได้ตีพิมพ์บทความเกี่ยวกับ xAI โดยระบุว่า Tesla ไม่สามารถยอมรับ GPU ของ Nvidia ได้เนื่องจากโรงงานในเมืองออสติน รัฐเท็กซัส ยังไม่เสร็จสมบูรณ์ นอกจากนี้เขายังคาดการณ์ว่า Tesla จะซื้อชิปปัญญาประดิษฐ์มูลค่า 3 พันล้านดอลลาร์ถึง 4 พันล้านดอลลาร์จาก Nvidia ในปี 2567
ผู้ถือหุ้นยังกล่าวหาว่าคณะกรรมการบริหารของ Tesla ไม่ดำเนินการใดๆ เพื่อให้ Musk "ปล้นทรัพยากรจาก Tesla และโอนทรัพยากรเหล่านั้นไปยัง xAI และสร้างมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์ในมูลค่าที่เกี่ยวข้องกับ AI ที่บริษัทอื่น"
เป็นที่น่าสังเกตว่านี่ไม่ใช่คดีของผู้ถือหุ้นเพียงรายเดียวที่จะเกิดขึ้นในสัปดาห์นี้ นักลงทุนสถาบันฟ้องร้องบริษัท โดยอ้างว่า Musk ใช้ข้อมูลภายในเพื่อขายหุ้น Tesla มูลค่านับพันล้าน
คดีดังกล่าวได้รับความสนใจอย่างกว้างขวางต่อพฤติกรรมของผู้บริหารองค์กรและการกำกับดูแลกิจการ และยังเน้นย้ำถึงวิธีสร้างสมดุลระหว่างความสัมพันธ์ระหว่างนวัตกรรมและผลประโยชน์ขององค์กรในอุตสาหกรรมเทคโนโลยีที่เติบโตอย่างรวดเร็ว ในอนาคตความคืบหน้าของคดีนี้จะเป็นคำเตือนให้กับบริษัทเทคโนโลยีอื่นๆ และอาจส่งผลกระทบต่อการกำหนดกฎหมายและกฎระเบียบที่เกี่ยวข้อง