เมื่อเร็วๆ นี้ แบรนด์แฟชั่น Selkie ได้จุดประกายให้เกิดการถกเถียงกันอย่างดุเดือดเกี่ยวกับการใช้ AI เพื่อสร้างคอลเลกชันวันวาเลนไทน์ เหตุการณ์นี้จุดประกายให้เกิดการอภิปรายครั้งใหญ่บนโซเชียลมีเดียเกี่ยวกับบทบาทของ AI ในการสร้างสรรค์งานศิลปะ บางคนกังวลว่าการใช้ AI อาจนำไปสู่การเอารัดเอาเปรียบศิลปิน ในขณะที่ผู้ก่อตั้งแบรนด์เชื่อว่า AI เป็นเพียงเครื่องมือในการปรับปรุงประสิทธิภาพ บทความนี้จะเจาะลึกข้อโต้แย้งเบื้องหลังเหตุการณ์เซลกี้ และวิเคราะห์ผลกระทบที่มีต่ออุตสาหกรรมแฟชั่นและการสร้างสรรค์งานศิลปะด้วย AI
แบรนด์แฟชั่นยอดนิยม Selkie เพิ่งเปิดตัวคอลเลกชันวันวาเลนไทน์ที่ออกแบบโดยใช้ generative AI ซึ่งส่งผลให้เกิดความขัดแย้งบนแพลตฟอร์มโซเชียลเกี่ยวกับการใช้การสร้าง AI ผู้ใช้บางคนเชื่อว่าการปฏิบัตินี้ผิดจรรยาบรรณและแสวงหาผลประโยชน์จากศิลปิน Kimberley Gordon ผู้ก่อตั้ง Selkie แย้งว่า AI เป็นเพียงเครื่องมือที่สามารถปรับปรุงประสิทธิภาพได้ เธอบอกว่าเธอจะไม่ใช้รูปภาพที่สร้างโดย AI ในแบรนด์ Selkie ต่อไป แต่จะลองใช้ในการสร้างสรรค์งานศิลปะส่วนตัวของเธอ ข้อโต้แย้งนี้เน้นย้ำถึงความสัมพันธ์ที่ซับซ้อนระหว่างศิลปะกับ AI และยังเตือนบริษัทที่เกี่ยวข้องว่าพวกเขาจำเป็นต้องจัดการกับมันอย่างระมัดระวังเหตุการณ์เซลกี้กระตุ้นให้เกิดความคิดในหลายประเด็น เช่น AI ศิลปะ และจรรยาบรรณทางธุรกิจ ในอนาคต การประยุกต์ใช้ AI ในอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ยังคงต้องมีการสำรวจอย่างรอบคอบ ในขณะที่ดำเนินการอย่างมีประสิทธิภาพ ก็จำเป็นต้องให้ความสนใจมากขึ้น สิทธิและคุณค่าเชิงสร้างสรรค์ของศิลปิน