Isomorphic Labs บริษัทที่นำโดย Demis Hassabis ผู้ร่วมก่อตั้ง Google ประกาศว่ามีแผนจะเปิดตัวการทดลองทางคลินิกเกี่ยวกับยาที่พัฒนาโดยปัญญาประดิษฐ์ก่อนสิ้นปีนี้ ข่าวนี้ก่อให้เกิดผลกระทบอย่างมากในวงการแพทย์ การทดลองจะมุ่งเน้นไปที่ด้านต่างๆ เช่น เนื้องอกวิทยา โรคหัวใจและหลอดเลือด และโรคเกี่ยวกับความเสื่อมของระบบประสาท โดยใช้เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์เพื่อเร่งการพัฒนายา ลดวงจรการพัฒนา และปรับปรุงประสิทธิภาพและความปลอดภัยของยา ความเคลื่อนไหวครั้งนี้ถือเป็นความก้าวหน้าครั้งสำคัญของปัญญาประดิษฐ์ในด้านการวิจัยและพัฒนายา ซึ่งคาดว่าจะเปลี่ยนวิธีการรักษาโรค และนำความหวังใหม่มาสู่ผู้ป่วยทั่วโลก
เมื่อเร็ว ๆ นี้ Demis Hassabi หนึ่งในผู้ก่อตั้ง Google เปิดเผยในการให้สัมภาษณ์ว่าบริษัทที่เขาก่อตั้งคือ Isomorphic Labs วางแผนที่จะเริ่มการทดลองทางคลินิกเกี่ยวกับยาที่พัฒนาโดยปัญญาประดิษฐ์ (AI) ก่อนสิ้นปีนี้ ข่าวดังกล่าวได้รับความสนใจอย่างกว้างขวาง โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับการใช้งานที่มีศักยภาพในด้านต่างๆ เช่น มะเร็งวิทยา โรคหัวใจและหลอดเลือด และโรคเกี่ยวกับความเสื่อมของระบบประสาท
Isomorphic Labs ก่อตั้งขึ้นในปี 2021 เพื่อเร่งการค้นพบและพัฒนายาโดยใช้เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ขั้นสูง Hassabis กล่าวว่าแม้ว่ากระบวนการพัฒนายามักจะยาวและซับซ้อน แต่ด้วยการสนับสนุนของปัญญาประดิษฐ์ สารประกอบที่มีศักยภาพสามารถคัดกรองได้ในเวลาอันสั้น ส่งผลให้วงจรการพัฒนาสั้นลงอย่างมาก เขาชี้ให้เห็นว่าขณะนี้บริษัทกำลังดำเนินการทดลองหลายครั้งเพื่อให้แน่ใจว่ายาที่พัฒนาขึ้นไม่เพียงแต่มีประสิทธิผล แต่ยังปลอดภัยอีกด้วย
Hassabis มั่นใจในการใช้ปัญญาประดิษฐ์ในสาขาวิทยาศาสตร์เพื่อชีวิต เขาเชื่อว่า AI สามารถดึงข้อมูลสำคัญจากข้อมูลชีวการแพทย์จำนวนมหาศาล ซึ่งจะช่วยให้นักวิทยาศาสตร์เข้าใจกลไกของโรคและค้นหาทางเลือกในการรักษาได้เร็วขึ้น เขากล่าวว่าทีมงานที่ Isomorphic Labs มุ่งมั่นที่จะศึกษาโรคที่สำคัญๆ เช่น เนื้องอก โรคหัวใจ และโรคอัลไซเมอร์ โดยมีจุดประสงค์เพื่อเปลี่ยนแปลงสภาพที่เป็นอยู่ผ่านการพัฒนายาใหม่ๆ
ปัจจุบัน Isomorphic Labs ได้สร้างความสัมพันธ์ในการร่วมมือกับบริษัทยาและสถาบันการวิจัยหลายแห่ง เพื่อร่วมกันพัฒนากระบวนการวิจัยและพัฒนายา Hassabis เน้นย้ำว่าความร่วมมือนี้จะช่วยเร่งการทดลองทางคลินิกและกระบวนการทางการตลาดของยา นอกจากนี้เขายังกล่าวด้วยว่าแม้จะเผชิญกับความท้าทายและความไม่แน่นอนมากมาย แต่ทีมงานก็ยังคงกระตือรือร้นและเชื่อว่าผลลัพธ์ในอนาคตจะนำข่าวดีมาสู่ผู้ป่วยทั่วโลก
เมื่อพูดถึงวิสัยทัศน์ในอนาคต Hassabis แสดงความหวังว่าโครงการวิจัยและพัฒนายาที่ขับเคลื่อนด้วย AI นี้จะเปลี่ยนความเข้าใจและการรักษาโรคของผู้คนได้อย่างแท้จริง เขาเน้นย้ำว่าการผสมผสานระหว่างวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีจะส่งเสริมการพัฒนายาและทำให้ผู้ป่วยมีทางเลือกในการรักษาที่ดีขึ้น
ไฮไลท์:
Isomorphic Labs วางแผนที่จะเริ่มการทดลองทางคลินิกสำหรับยาที่พัฒนาโดย AI ภายในสิ้นปีนี้ โดยมุ่งเน้นไปที่ด้านต่างๆ เช่น เนื้องอกวิทยา โรคหัวใจและหลอดเลือด และโรคเกี่ยวกับความเสื่อมของระบบประสาท
Hassabis เชื่อว่าปัญญาประดิษฐ์สามารถเร่งการวิจัยและพัฒนายา ลดระยะเวลาการวิจัยและพัฒนา และปรับปรุงประสิทธิภาพและความปลอดภัยของยาได้
บริษัททำงานร่วมกับบริษัทยาและสถาบันวิจัยหลายแห่งเพื่อส่งเสริมการทดลองทางคลินิกและการเปิดตัวยา
โครงการพัฒนายาปัญญาประดิษฐ์ของ Isomorphic Labs ถือเป็นการเปิดศักราชใหม่ในด้านการพัฒนายา ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีนี้คาดว่าจะช่วยปรับปรุงประสิทธิภาพและอัตราความสำเร็จของการพัฒนายาได้อย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งท้ายที่สุดจะเป็นประโยชน์ต่อผู้ป่วยทั่วโลก ให้เรารอดูและหวังว่าเทคโนโลยีนี้จะเป็นประโยชน์ต่อมนุษยชาติโดยเร็วที่สุด