เมื่อเร็วๆ นี้ Zoom ได้ประกาศว่าจะเปลี่ยนชื่อบริษัทเป็น Zoom Communications Inc. ซึ่งถือเป็นการเปลี่ยนแปลงเชิงกลยุทธ์ไปสู่แพลตฟอร์มการทำงานที่เน้นปัญญาประดิษฐ์เป็นหลัก ความเคลื่อนไหวดังกล่าวมีจุดมุ่งหมายเพื่อตอบสนองต่อการแข่งขันในตลาดที่รุนแรงยิ่งขึ้น และตอบสนองความต้องการของสภาพแวดล้อมสำนักงานแบบไฮบริดสมัยใหม่ Zoom ไม่ได้จำกัดอยู่เพียงการประชุมทางวิดีโออีกต่อไป แต่มุ่งมั่นที่จะมอบเครื่องมือการทำงานร่วมกันและการสื่อสารที่ครอบคลุมมากขึ้น เพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงานและประสิทธิผลของผู้ใช้ การรีแบรนด์และอัปเกรดผลิตภัณฑ์นี้เป็นมาตรการสำคัญสำหรับ Zoom ในการตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงของตลาด รวบรวมจุดยืน และเปิดรับเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์อย่างแข็งขัน
เมื่อเร็วๆ นี้ Zoom Communications Inc. ได้ประกาศว่าจะเปลี่ยนชื่อบริษัทจาก Zoom Video Communications Inc. เป็น Zoom Communications Inc. การเปลี่ยนแปลงนี้สะท้อนให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่องของบริษัทไปสู่แพลตฟอร์มการทำงานที่เน้น AI ซึ่งมุ่งมั่นที่จะมอบโซลูชันที่ครอบคลุมมากขึ้นสำหรับสภาพแวดล้อมสำนักงานแบบไฮบริดที่ทันสมัย Eric Yuan ซีอีโอกล่าวในบล็อกของบริษัทว่า Zoom จะมุ่งเน้นไปที่การส่งเสริมการเชื่อมโยงของมนุษย์และการทำงานร่วมกัน
เมื่อมองย้อนกลับไปในปี 2020 Zoom เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในช่วงที่มีการแพร่ระบาด และกลายเป็นสัญลักษณ์เดียวกับการประชุมผ่านวิดีโอ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อบริษัทต่างๆ ถูกบังคับให้เปลี่ยนพนักงานไปทำงานจากระยะไกล จำนวนผู้ใช้และรายได้ของ Zoom ก็เพิ่มขึ้นอย่างมาก อย่างไรก็ตาม ในขณะที่พนักงานค่อยๆ กลับมาที่สำนักงานและการแข่งขันในตลาดรุนแรงขึ้น บริษัทต่างๆ เช่น Google, Microsoft และ Slack ก็เริ่มนำเสนอความสามารถด้านการประชุมทางวิดีโอโดยเป็นส่วนหนึ่งของชุดโปรแกรมสำนักงานของพวกเขา ซึ่งสร้างแรงกดดันให้กับ Zoom มากขึ้น
เพื่อตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงนี้ Zoom ได้เปิดตัวเครื่องมือสื่อสารที่ครอบคลุมมากขึ้น เช่น Zoom Team Chat และเปิดตัวโซลูชัน Zoom Workplace ซึ่งรวมแอปพลิเคชันเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานในสำนักงาน ไคลเอนต์อีเมลองค์กร ฯลฯ ที่คล้ายกับ Google และ Microsoft Yuan กล่าวในการสัมภาษณ์เมื่อเร็วๆ นี้ว่าในสถานที่ทำงานยุคใหม่ ผู้คนใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการโทรศัพท์ เข้าร่วมการประชุม การส่งและตอบกลับอีเมล ฯลฯ การใช้ AI และ Zoom Workplace เพื่อทำให้งานเหล่านี้เป็นไปโดยอัตโนมัติจะเป็นแนวทางที่สำคัญสำหรับ บริษัทในอนาคต
ในเดือนตุลาคมปีนี้ AI Assistant 2.0 ของ Zoom ได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการ พร้อมด้วยการสรุปและฟังก์ชันเสริมที่มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น หยวนกล่าวว่าการอัปเดตนี้จะช่วยให้ผู้ใช้สร้างผู้ช่วยดิจิทัลที่ปรับแต่งได้อย่างเต็มที่ด้วยความรู้และประสบการณ์ขององค์กร ซึ่งสามารถประหยัดเวลาในวันทำงาน ทำให้ผู้ใช้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น และอาจถึงขั้นบรรลุผลสำเร็จในการทำงานสี่วันต่อสัปดาห์ .
ด้วยความคิดริเริ่มเหล่านี้ Zoom ไม่เพียงแต่หวังที่จะรักษาความได้เปรียบในตลาดที่มีการแข่งขันสูงเท่านั้น แต่ยังมุ่งมั่นที่จะเปลี่ยนเป็นโซลูชั่นการทำงานที่กว้างขึ้นเพื่อให้แน่ใจว่าจะสามารถตอบสนองความต้องการของสถานที่ทำงานยุคใหม่ได้
ไฮไลท์:
**การรีแบรนด์**: Zoom เปลี่ยนชื่อเป็น Zoom Communications Inc. และเปลี่ยนเป็นแพลตฟอร์มการทำงานที่เน้น AI เป็นหลัก
**การแข่งขันในตลาด**: เมื่อเผชิญกับการแข่งขันที่รุนแรงจาก Google, Microsoft และ Slack ทำให้ Zoom ได้เสริมความแข็งแกร่งให้กับกลุ่มผลิตภัณฑ์
**ผู้ช่วย AI**: เปิดตัว Zoom AI Assistant 2.0 เพื่อช่วยให้ผู้ใช้ปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงานและเพิ่มเวลาได้มากขึ้น
โดยรวมแล้ว การเปลี่ยนแปลงของ Zoom ไม่ใช่แค่การเปลี่ยนชื่อเท่านั้น แต่ยังเป็นการปรับทิศทางเชิงกลยุทธ์ด้วย โดยมีเป้าหมายเพื่อปรับปรุงประสบการณ์ผู้ใช้ผ่านเทคโนโลยี AI รักษาตำแหน่งผู้นำในตลาดที่มีการแข่งขันสูง และมอบโซลูชั่นที่ครอบคลุมมากขึ้นสำหรับไฮบริดในอนาคต โมเดลออฟฟิศ การพัฒนา Zoom ในอนาคตนั้นคุ้มค่ากับการรอคอย